5 คำศัพท์ที่ชาว TikTok ต้องรู้

เมื่อแอปพลิเคชัน TikTok ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก ด้วยความหลากหลายของคอนเทนต์ ที่ไม่ได้มอบเพียงแค่ความเพลิดเพลิน แต่ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้อีกด้วย และเมื่อกลุ่มผู้ใช้ส่วนใหญ่คือวัยรุ่นยุคมิลเลนเนียล จึงเกิดศัพท์ใหม่ขึ้นมากมาย รวมไปถึงศัพท์เฉพาะที่ทาง TikTok ได้สร้างขึ้นมาเป็นฟังก์ชัน แน่นอนว่าก่อนที่เราจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นได้นั้น ก็ต้องทำความรู้จักกับคำศัพท์เหล่านี้ให้ดีเสียก่อน ซึ่งจะมีอะไรบ้าง Shout! จะพาไปดูกัน  ต๊อกต๊อก  เริ่มกันที่คำน่ารักๆ อย่าง “ต๊อกต๊อก” เป็นคำที่ใช้เรียกผู้เล่น TikTok มักใช้ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์กำลังไลฟ์ หรือเป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับการเล่าเรื่องและได้มีการพูดถึงกลุ่มคนดู เช่น “สวัสดีเพื่อนๆ ต๊อกต๊อกทุกคน”  ติดตะกร้า  เป็นคำศัพท์สำหรับฝั่งอินฟลูเอนเซอร์ ในกรณีที่เรากำลัง Live เพื่อขายสินค้าอยู่ ผู้ที่อยากซื้อจะสามารถกดเลือกซื้อสินค้านั้นได้ ซึ่งทางฝั่งอินฟลูเอนเซอร์ก็สามารถทำกำไรจากค่าเปอร์เซ็นต์ของการเป็นนายหน้าขายสินค้าได้ โดยสำหรับวิธีการสร้างการติดตะกร้านั้น อย่าปิดการมองเห็น ขึ้นฟีดเถอะ  อินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ส่วนใหญ่มักใช้เป็นแฮชแท็กนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้ได้รับการมองเห็นมากยิ่งขึ้น จนผู้เล่นแอปพลิเคชันหน้าใหม่อาจจะงง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการใช้แฮชแท็ก ก็มีส่วนช่วยในการสร้างแอลกอริธึม และอาจเพิ่มยอดการมองเห็นเช่นเดียวกัน Duet  ฟังก์ชันที่เรียกว่า Duet ของ TikTok คือการสร้างคอนเทนต์ร่วมกับผู้อื่น โดยจะมีสองวิดีโอในหน้าจอแยกที่เล่นพร้อมกัน ซึ่งต้องมีบัญชีสาธารณะจึงจะสามารถอนุญาตให้ผู้อื่นดูเอ็ทกับวิดีโอของคุณได้ Stitch เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันของ TikTok โดย …

5 คำศัพท์ที่ชาว TikTok ต้องรู้ Read More »

ทำการตลาดบน TikTok ยังไงให้เวิร์ค

เมื่อพูดถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้ ก็คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก TikTok ถือเป็นโอกาสที่ดีของแบรนด์และนักการตลาดในการสร้างพื้นที่สำหรับแบรนด์เช่นเดียวกัน วันนี้เราก็มี 5 ทริกดีๆ ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณได้รับความนิยมใน TikTok มาฝากกัน TikTok เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับใช้สร้างและแชร์วิดีโอสั้น ๆ มีจุดเด่นคือความหลากหลายของคอนเทนต์ และรูปแบบการสร้างที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถมีส่วนร่วมได้ง่าย ทั้งยังเล่นกับความสนใจในการดูคอนเทนต์ได้ดี ด้วยการจำกัดความยาวของคลิป จึงทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับแอปพลิเคชันได้เป็นชั่วโมง และก็คงจะดีสำหรับแบรนด์และนักการตลาดไม่น้อยหากในชั่วโมงที่ผู้บริโภคเล่นแอปนั้น ได้ให้ความสนใจในตัวแบรนด์ด้วย ถ้าอย่างนั้นต้องทำอย่างไรถึงจะถูกใจทั้งอัลกอริธึมและกลุ่มเป้าหมายล่ะ?   สำรวจความชอบของกลุ่มเป้าหมาย เมื่อแบรนด์แต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายก็ต้องแตกต่างกันด้วย ดังนั้นก่อนอื่นก็ต้องเริ่มจากดูว่ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ที่ติดตามแบรนด์นั้นอายุเท่าไหร่ เพศไหน และมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจแบบใด แล้วจึงออกแบบคอนเทนต์ของแบรนด์ให้เข้ากับความสนใจนั้นๆ เช่น การมีส่วนร่วมโต้ตอบกับแบรนด์ผ่านทางไลฟ์ ดูวิดีโอที่เป็นเรื่องราว หรืออาจจะเป็นข้อความที่ใส่เพลง การ Live ขายของ หรือแม้แต่การรีวิวสินค้า นอกจากนี้ การสร้างคอนเทนต์ด้วยการใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีความสามารถในการพูด ก็เป็นสิ่งสำคัญในที่สามารถสร้างความสนใจได้ดีเช่นเดียวกัน ใช้แฮชแท็ก #  การใช้แฮชแท็กนั้น นอกจากจะทำให้กลุ่มเป้าหมายหาคอนเทนต์เราเจอง่ายจากการกดตามแฮชแท็กแล้ว ยังเป็นการช่วยอัลกอริธึมให้แนะนำคอนเทนต์เราให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย แต่ข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้แฮชแท็กเยอะเกินไป ควรเริ่มจากประเภทเล็ก ไปยังประเภทใหญ่ เช่น หากแบรนด์เราเป็นผงซักฟอกยี่ห้อ A แฮชแท็กที่ใช้ก็ควรเป็น #ผงซักฟอกA #สโลแกนแบรนด์ #ชื่ออินฟลูเอนเซอร์หากแบรนด์ใช้ #ผงซักฟอก …

ทำการตลาดบน TikTok ยังไงให้เวิร์ค Read More »

How to สมัคร Lazada Affiliate program

หลังจากที่ได้แนะนำวิธีการสมัคร Shopee Affiliate Program (insert link) ไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงฝั่งของ Lazada Affiliate Program กันบ้าง ขอบอกว่ามีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น! ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูวิธีทำ และสมัครไปพร้อมๆ กันได้เลย อันดับแรกก็ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Lazada จาก Google Play หรือ App Store เสียก่อน  เมื่อเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาแล้ว จะเห็นปุ่มสมัครโปรแกรม Affiliate คลิกเพื่อสมัครได้เลย หรืออยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ทางแอปฯเตรียมไว้ให้ก็ได้เช่นเดียวกัน ขั้นแรกกรอกข้อมูลส่วนตัว ซึ่งระบบจะขึ้นเป็นค่า default เดียวกับบัญชีที่ใช้ในการใช้สมัครแอป ได้แก่ ชื่อ เบอร์โทรติดต่อ และอีเมลล์ หลังจากนั้นระบบจะทำการส่งโค้ดไปยังอีเมลล์ที่ใช้ในการลงทะเบียนเพื่อเป็นการยืนยัน เมื่อยืนยันเรียบร้อยก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการสมัคร นอกจากนั้นยังมี Report ที่รายงานผลการทำ Affiliate link ออกมาเป็นยอด Conversion ซึ่งสามารถเลือกเวลาได้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อวาน ยอดรวม 7 วันที่แล้ว หรือ 30 วันก็ตาม จะเห็นได้ว่าขั้นตอนในการสมัคร …

How to สมัคร Lazada Affiliate program Read More »

How to สมัคร Shopee Affiliate Program

อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในวงการอินฟลูเอนเซอร์ นั่นก็คือ Affiliate Progam โดยเฉพาะบนช่องทาง E-Commerce อย่าง Shopee และ Lazada เพราะสามารถทำได้ง่าย และสร้างรายได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งแน่นอนว่าก่อนจะสร้าง Affiliate ได้ ก็ต้องทำการสมัครบัญชีก่อน วันนี้เราจะพาไปดูวิธีการสมัคร Affiliate Shopee กัน ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น!

ทำความรู้จักกับ Affiliate Marketing

คงจะดีไม่น้อยหากคุณสามารถสร้างรายได้ตลอดเวลา แม้ขณะที่หลับอยู่ก็ตาม  เมื่อก่อนอาจดูเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่มันสามารถเป็นไปได้จริงในตอนนี้ นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า “Affiliate Marketing” นั่นเอง รูปแบบธุรกิจเป็นแบบไหน วิธีการทำงานเป็นอย่างไร วันนี้ Shout! จะพาไปดูกัน  Affiliate marketing คือการทำการตลาดให้กับแบรนด์หรือบุคคลด้วยการโปรโมตสินค้าและบริการผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตัวเอง ยกตัวอย่างง่ายๆ ที่หลายคนอาจจะคุ้นตา นั่นก็คือลิงก์ Affiliate จากผู้โฆษณา ที่เมื่อกดแล้วจะเชื่อมต่อไปยังหน้าขายสินค้า และเมื่อมีคนกดซื้อสินค้าผ่านลิงก์นั้น เราก็จะได้ค่าตอบแทนจากแบรนด์นั่นเอง ถือเป็นการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจ เพราะสามารถสร้างประโยชน์ได้อย่างสบายๆ ให้กับทั้งฝั่งอินฟลูเอนเซอร์และตัวแบรนด์เอง  Affiliate Marketing มีรูปแบบการทำงานอย่างไร ทำอย่างไรให้เวิร์ค การตลาดแบบนี้จะทำให้ตัวสินค้าถูกโฆษณาได้อย่างหลากหลายและได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะเป็นการพูดโดยบุคคลที่ 3 (Third Party) ซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับแบรนด์ โดยปัจจัยหลักที่จะทำให้การตลาดแบบนี้ประสบความสำเร็จ ก็มีด้วยกัน 3 ส่วน นั่นก็คือ  แบรนด์ผู้สร้างสินค้า เป็นเจ้าของที่ผลิตสินค้า หรือผู้จัดจำหน่าย คนสร้าง Affiliate คือผู้ที่โปรโมตสินค้าและบริการให้แบรนด์ โดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง และจะได้รับค่าตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชันเมื่อมีผู้ซื้อสินค้า ผู้บริโภค คือกลุ่มที่ซื้อสินค้าจากคนสร้าง Affiliate ซึ่งมักจะติดตามโซเชียลมีเดียของผู้สร้างอยู่แล้ว  วิธีการสร้างเงินจากการตลาด …

ทำความรู้จักกับ Affiliate Marketing Read More »

Shout! แพลตฟอร์มให้บริการด้านอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญครบวงจร

หากคุณกำลังสนใจวิธีการทำการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ แต่ไม่รู้จะต้องเริ่มต้นจากตรงไหน ลองปรึกษา Shout! แพลตฟอร์มให้บริการด้าน Influencer Commerce ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น  Influencer Marketing, Affiliate Marketing หรือ Influencer Campaign การร่วมงานกับ Shout! จะดีกว่าการใช้เจ้าอื่นยังไง วันนี้เราจะพาไปดูกัน  แบรนด์ไหนก็ปลื้ม เมื่อเลือกทำงานกับ Shout!  ไม่ว่าคุณจะเป็นแบรนด์ไหน อยากทำแคมเปญแบบใด Shout มีบริการค้นหาและจัดการอินฟลูฯ ด้วยข้อมูลและฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ เพียงกรอกข้อมูลไม่กี่คลิก ชีวิตก็ง่ายขึ้นอีกเยอะ!  ✅ เลือกอินฟลูที่ใช่ ในราคาที่ใช่ ได้ในพริบตา ด้วย Data-driven Influencer Selection  เลือกอินฟลูฯที่ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายของคุณที่สุดได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟังก์ชันการค้นหาและเลือกอินฟลูเอนเซอร์ ผ่าน Insight Data ที่แม่นยำ จาก Social Media โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น 🗝 Influencer Data ข้อมูลอินฟลูเอนเซอร์พื้นฐานเบื้องต้น เช่น ข้อมูล …

Shout! แพลตฟอร์มให้บริการด้านอินฟลูเอนเซอร์แคมเปญครบวงจร Read More »

5 ปัญหาที่ชาวเอเจนซี่และแบรนด์เจอเมื่อทำการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์

เมื่อแบรนด์ใช้กลยุทธทางการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ ก็ต้องมีการทำงานร่วมกันหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นจากทางแบรนด์กับอินฟลูฯ หรือแม้แต่เอเจนซี่กับอินฟลูฯเองก็ตาม มาดูกันว่าปัญหาที่แต่ละฝ่ายต้องเจอในการทำการตลาดแบบอินฟลูฯ มีอะไรบ้าง เช็คให้ชัว จะได้ระวังตัวได้ดีกว่าเดิม!  เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อยากให้สินค้าเครื่องสำอางก์เป็นที่รู้จัก แต่ดันเลือกอินฟลูเอนเซอร์ในหมวดกีฬาซะอย่างนั้น ทั้งที่ผลตอบรับจากการทำคอนเทนต์ออกมาดีเกินคาด และอินฟลูฯคนนี้ก็ยังอยู่ในกระแส แต่ท้ายที่สุดแล้วอาจไม่ได้ส่งผลถึงสินค้ามากเท่าไหร่ นั่นก็เพราะะเลือกอินฟลูฯที่มีกลุ่มคนติดตามไม่ตรงกับทาร์เก็ตของแบรนด์นั่นเอง  นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลให้คอนเทนต์ที่อินฟลูฯสร้างออกมาดูขัดกับภาพลักษณ์ของตัวเอง ยิ่งอาจส่งผลไม่ดีกับแบรนด์มากกว่าเดิมอีกด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่ควรระวัง ก่อนจะเลือกอินฟลูทุกครั้ง ต้องเช็คให้ดีว่ากลุ่มผู้ติดตามคือใคร สื่อสารผิดพลาดระหว่างทำงาน ในหนึ่งแคมเปญไม่ควรมี Key Person หรือผู้ติดต่อหลายคน เพราะอาจส่งผลให้การสื่อสารคลาดเคลื่อนได้ โดยทางฝั่งแบรนด์และเอเจนซี่ควรมี AE (Account Executive) และทางฝั่งอินฟลูฯ ก็ควรคุยด้วยตัวเองเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน  แต่ในบางกรณี เช่น โปรเจ็คจากแบรนด์มีสเกลที่ใหญ่มากจนต้องมี AE หลายคน หรืออินฟลูฯ งานล้นและจำเป็นต้องมีผู้จัดการส่วนตัวช่วยจัดคิว ก็ควรมีช่องทางสื่อสารที่ชัดเจนเป็นทางการ รวมไปถึงควรทำบันทึกข้อตกลงงานเป็นลายลักษณ์เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย  ตามไทม์ไลน์ลำบาก  เรื่องไทม์ไลน์เป็นเรื่องไม่เข้าใครออกใคร เพราะการสร้างคอนเทนต์เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ด้วยปัญหาหรือความขัดข้องที่อาจแทรกเข้ามา ทำให้บ่อยครั้งที่ไม่สามารถทำคอนเทนต์ตามไทม์ไลน์ได้  ฝ่ายแบรนด์และเอเจนซี่ที่ตามก็หนักใจ ฝ่ายอินฟลูเอนเซอร์ที่โดนตามก็รู้สึกอึดอัด แม้ว่าจะพยายามทำคอนเทนต์อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ดังนั้นก่อนจะกำหนดวันส่งที่แน่นอน ควรตกลงวันให้ดี และคำนึงถึงความเป็นไปได้ เพื่องานที่มีคุณภาพ และการส่งตรงตามเวลานั่นเอง  …

5 ปัญหาที่ชาวเอเจนซี่และแบรนด์เจอเมื่อทำการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ Read More »

จิ๋วแต่แจ๋ว! ส่องประโยชน์อันทรงพลังของ micro-influencer กัน

ในโลกของอินฟลูเอนเซอร์ จำนวนผู้ติดตามที่มากมายอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป  แม้ว่าอินฟลูเอนเซอร์แบบ macro-influencers ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านอาจดูเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มยอดการรับรู้ แต่อินฟลูเอนเซอร์แบบ micro-influencers ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเช่นเดียวกัน Micro-Influencer คืออินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามอยู่ที่ หนึ่งหมื่นถึงหนึ่งแสนคน แม้จะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ก็สามารถสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้ดีไม่แพ้กัน  ส่วนใหญ่แล้วจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ความงาม แฟชั่น ฟิตเนส หรืออาหาร วันนี้ Shout! จะพาไปดูว่าทำไมบางครั้งการเลือก  micro-influencers อาจดีกว่าที่คิด!  จริงใจแบบจัดเต็ม แฝงความเห็นแบบไม่กั๊ก หัวข้อนี้ ไม่ได้แปลว่าอินฟลูเอนเซอร์ระดับใหญ่ไม่มีความถูกต้อง แต่เมื่อมีผู้ติดตามจำนวนมาก ก็ย่อมมีพลังในการชักชวนการตัดสินใจที่มากเช่นเดียวกัน อินฟลูเอนเซอร์แบบ Macro จึงมักเลี่ยงแสดงความคิดเห็นแบบส่วนบุคคล เพราะอาจส่งผลต่อแบรนด์ได้ การทำคอนเทนต์จึงมักเป็นการบรรยายสรรพคุณโดยทั่วไปเท่านั้น รวมไปถึงการมีปฎิสัมพันธ์ที่ไม่ครอบคลุมกลุ่มผู้ติดตามทั้งหมดด้วยจำนวนที่เยอะกว่า ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามน้อยลงมาหน่อย ระหว่าง 1,000 ถึง 100,000 ค่อนข้างที่จะมีอิสระในการแสดงความเห็นมากกว่า และมักสามารถตอบกลับ รวมไปถึงมีปฎิสัมพันธ์กับผู้ติดตามได้มากกว่า จึงอาจส่งผลให้ได้รับความนิยมมากกว่าในบางคอนเทนต์นั่นเอง  เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะได้ดี หนึ่งในเอกลักษณ์ของอินฟลูเอนเซอร์ระดับ Micro คือสามารถเข้าถึงกลุ่มที่มีความสนใจเฉพาะทางได้ ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว โดยฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออินฟลูเอนเซอร์มีความรู้ในด้านนั้นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสายความงาม สุขภาพ …

จิ๋วแต่แจ๋ว! ส่องประโยชน์อันทรงพลังของ micro-influencer กัน Read More »

ประโยชน์ของการใช้ Influencer Marketing ที่หาไม่ได้จากการตลาดแบบอื่น! 

โลกออนไลน์ในขณะนี้กำลังทำการตลาดอย่างดุเดือด แพลตฟอร์มใหม่ๆ แข่งกันเปิดตัวราวกับเสกได้ ทำให้นักการตลาดต้องคิดหาวิธีสร้างรูปแบบการโฆษณาแบบใหม่เพิ่มด้วยเช่นเดียวกัน  “การตลาดแบบอินฟลูเซอร์” เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มรวดเร็วที่สุด เพราะใช้เพียงอินฟลูเอนเซอร์ และข้อมูลเนื้อหาเท่านั้น หลายคนสงสัยว่า แล้วรูปแบบการตลาดแบบนี้จะดีกว่าแบบอื่นได้อย่างไร? Shout! จะพาไปดูกัน  เพิ่มยอด Brand Awareness อย่างรวดเร็ว หากแบรนด์คุณเป็นแบรนด์เล็ก และต้องการตีตลาด การสร้างภาพจำหรือ Brand Awareness เป็นสิ่งสำคัญ ลองนึกถึงสถานการณ์ที่คุณอยากซื้อสินค้า เช่น น้ำดื่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องใช้เวลาหรือคิดถึงรายละเอียดในการตัดสินใจมากนัก การคัดเลือกส่วนใหญ่จึงมักเป็นการเลือกจากแบรนด์ที่คุ้นเคย หรือเห็นบ่อยๆ ทางโฆษณาทั่วไป ทั้งที่ความจริงแล้ว อาจไม่ใช่แบรนด์ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่ต้องการมากที่สุด และเมื่อเป็นเช่นนี้ อาจส่งผลให้คุณไม่มองหาหรือทดลองใช้แบรนด์น้ำดื่มที่เกิดขึ้นใหม่เลยก็ได้  บ่อยครั้งที่สินค้าที่ดีจริง ๆ กลับได้ยอดขายไม่มากเท่าที่ควร เพราะผู้คนไม่มีการรับรู้ถึงแบรนด์ที่เพียงพอ และปัญหาประเภทนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยแคมเปญการตลาดผ่านทางอินฟลูเอนเซอร์ ลองนึกภาพตาม(อีกครั้ง)ว่า เมื่อเห็นคนที่คุณติดตามทดลองใช้สินค้า อธิบายทั้งข้อดีและข้อเสีย คุณจะค้นพบว่าสินค้านั้นน่าสนใจ และมีคุณสมบัติหลายประการที่คิดว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ จนสุดท้ายต้องไปซื้อมาทดลองใช้ด้วยตัวเอง แม้จะเป็นเพียงน้ำดื่ม แต่ครั้งหน้าคุณจะมองหาแบรนด์นี้มากขึ้นที่ชั้นวางสินค้า ใช่ไหม?  ประหยัดเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับการโฆษณารูปแบบอื่น  หนึ่งในปัญหาที่แบรนด์มักเจอในรูปแบบการโฆษณาแบบเดิมคือ การจ่ายเงินก้อนอย่างต่อเนื่อง เช่น Google keyword search …

ประโยชน์ของการใช้ Influencer Marketing ที่หาไม่ได้จากการตลาดแบบอื่น!  Read More »

 5 วิธีเลือกอินฟลูฯ ที่ใช่และตรงกับแคมเปญของคุณ

การแข่งขันทางการตลาดทุกวันนี้เรียกได้ว่าเข้มข้นขึ้นทุกไตรมาส เมื่อทุกแบรนด์ต่างงัดกลยุทธ์เพื่อยึดครองพื้นที่ในใจของผู้บริโภค และยังต้องรักษาตำแหน่งเอาไว้ด้วยความน่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้โดนแทนที่จากคู่แข่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายดายกว่าเมื่อก่อน  การตลาดออนไลน์ผ่านกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายของตนอย่างแท้จริง เพราะการร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมนั้นสามารถเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก น่าเชื่อถือ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีผลตอบรับที่ดีในท้ายที่สุด  อย่างไรก็ตาม การเลือกอินฟลูฯที่เหมาะสมนั้นควรใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบ และมีหลักการเลือกที่ถูกต้อง ในบทความนี้ Shout! จะมาแนะนำขั้นตอนและเคล็ดลับในการเลือกอินฟลูฯ สำหรับแบรนด์ของคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุดของแคมเปญ  กำหนดวัตถุประสงค์ให้ชัด แคมเปญนี้ ต้องการผลลัพธ์อะไร ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการเลือกอินฟลูฯควรกำหนดวัตถุประสงค์ของแคมเปญให้ชัดเจนว่า เรามีแคมเปญนี้เพื่ออะไร หากเป็นแบรนด์ที่พึ่งเปิดใหม่ อาจต้องการสร้างแคมเปญเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ดังนั้นจุดประสงค์จึงเป็นการสร้างการรับรู้ (Awareness) หรือหากแคมเปญนี้ต้องการโน้มน้าวพฤติกรรมผู้บริโภค อย่างการซื้อ หรือสมัครใช้สินค้า ก็ต้องเลือกจุดประสงค์ว่าเป็น Conversion ได้  หากไม่แน่ใจว่าต้องการวัตถุประสงค์แบบไหน ก็สามารถปรึกษา Shout! แพลตฟอร์มเพื่ออินฟลูเอนเซอร์ได้เช่นเดียวกัน ระบุกลุ่มเป้าหมายให้แม่น ใครคือคนที่เราต้องการส่งข้อมูลถึง? การระบุกว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ทำให้รู้แนวโน้มความสนใจ พฤติกรรม ความชอบ ทำให้สามารถเลือกอินฟลูฯที่สามารถสร้างคอนเทนต์ให้เข้ากับความนิยมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยขั้นตอนในการคัดเลือกอาจเป็นข้อมูลพื้นฐานอย่าง เพศ อายุ ความสนใจ ที่อยู่อาศัย และสามารถทำให้ละเอียดขึ้นได้ด้วยการสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม (Dept Interview) ก็จะทำให้รู้ข้อมูลที่ละเอียดและลึกซึ้งมากขึ้นได้ คัดสรรและมองหาเลือกอินฟลูฯ …

 5 วิธีเลือกอินฟลูฯ ที่ใช่และตรงกับแคมเปญของคุณ Read More »

Scroll to Top